วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ศึกษาตัวอย่างธุรกิจ

แบบธุรกิจต่อธุรกิจ
• ไมโครซอฟต์ (www.microsoft.com)
  เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
  ผลิตซอฟต์แวร์ทั้งสำหรับบุคคลทั่วไป
  และโดยบริษัทห้างร้าน องค์กรต่างๆ
  ในการจัดอันดับโดยเน็ตมาร์เก็ตติง
  ไมโครซอฟต์ได้คะแนนร้อยละ 97
  เท่ากับอเมริกัน เอ็กซ์เพรส
  นับได้ว่าเป็นที่สอง รองจากทรีคอม (3com)
  ซึ่งได้คะแนนร้อยละ 98 เป็นที่หนึ่ง
• ซิสโค (www.cisco.com)
  ซิสโคขายอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
  และอุปกรณ์ทางด้านเครือข่ายอื่นๆ
  โดยขายผ่านเว็บแบบธุรกิจต่อธุรกิจ
  ทำให้ยอดขายของซิสโคเพิ่มสูงขึ้นกว่าร้อยละ 20
  ยอดขายของซิสโคได้มาจาก
  การใช้สื่ออินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางการสื่อสาร
  ของตลาดธุรกิจต่อธุรกิจ
  ร้อยละ 92 ของการสั่งซื้อสินค้าซิสโค
  เกิดจากการสั่งซื้อผ่านอินเทอร์เน็ต
  และการบริการลูกค้ากว่าร้อยละ 80
  มาจากการขอใช้บริการผ่านซิสโคออนไลน์
แบบธุรกิจต่อผู้บริโภค
• แอมะซอน (www.amazon.com)
  - เป็นบริษัทผู้ขายปลีกสินค้าผ่านเว็บไซต์
    เริ่มจากการขายหนังสือ
    จนเป็นร้านหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก
    ปัจจุบันเป็นร้านขายของที่ใหญ่ที่สุดในโลก
  - มีเว็บในประเทศต่างๆ อาทิ
    1) อเมริกา (www.amazon.com)
    2) อังกฤษ (www.amazon.co.uk)
    3) เยอรมัน (www.amazon.de)
    4) ฝรั่งเศส (www.amazon.fr)
    5) ญี่ปุ่น (www.amazon.co.jp)
    6) แคนาดา (www.amazon.ca)



แบบผู้บริโภคต่อผู้บริโภค
• อีเบย์ (www.ebay.com)
  - แหล่งประมูลสินค้าออนไลน์
    ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
  - เป็นแหล่งที่ผู้ขายมาเสนอขาย
    และผู้ซื้อประมูลซื้อแข่งกัน
  - ผู้ซื้อและผู้ขายติดต่อกัน
    ผ่านอีเมล์
  - มีผู้ลงทะเบียนใช้อีเบย์
    มากกว่า 10 ล้านคน





ข้อ 2 ให้นักศึกษาบอกประโยชน์ของการค้าแบบออนไลน์หรือ E-Commerce มาอย่างน้อย 5 ข้อ
 1. ทำการค้าได้ตลอด 24 ชั่งโมง และขายสินค้าได้ทั่วโลก นักท่องอินเตอร์เน็ตจากทั่วทุกมุมโลก
สามารถเข้ามาในเว็บไซต์ของบริษัทได้ตลอดเวลาผู้ขายสามารถนำเสนอสินค้า ผลิตภัณฑ์ และบริการต่างๆ
ได้อย่างรวดเร็ว โดยคำสั่งซื้ออาจเกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมงและมาจากที่ต่างๆกัน
            2. ข้อมูลทันสมัยอยู่เสมอ และประหยัดค่าใช้จ่าย พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ นั้นมีประโยชน์ที่สำคัญ
มากอีกประการหนึ่ง คือสามารถ เสนอข้อมูลที่ใหม่ล่าสุดให้กับลูกค้าได้ทันทีซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
ในการจัดพิมพ์เอกสาร และประหยัดเวลาในการประชาสัมพันธ์
            3. ทำงานแทนพนักงานขาย และเพิ่มประสิทธิภาพการขาย พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์นั้นสามารถทำงาน
แทนพนักงานขายของคุณได้ โดยสามารถทำการค้าในรูปแบบอัตโนมัติ และดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการทางธุรกิจภายในองค์กรนั้นๆ
            4. แทนหน้าร้าน หรือบูทแสดงสินค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถแสดงสินค้าที่มีอยู่ให้กับลูกค้า
ทั่วโลกได้มองเห็นสินค้าของคุณ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายตกแต่งหน้าร้าน หรือในการเดินทางออกไปใน
บูทแสดงสินค้าในที่ต่างๆ
            5. เทคโนโลยีช่วยส่งเสริมผลิตภัณฑ์ให้น่าสนใจยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ๆมาช่วยในการ
ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น เช่น การแสดงสินค้าโดยผู้ชมสามารถดูสินค้าได้ 180 องศา
หรือลูกค้าสามารถอ่านหัวข้อของหนังสือที่ต้องการซื้อก่อนได้

ข้อ 3 ให้นักศึกษาข้อจำกัดของการค้าแบบออนไลน์หรือ E-Commerce มาอย่างน้อย 5 ข้อ 

1.ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล                                                                            2.ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ                                                                   3.ประเทศของผู้ซื้อและผู้ขายจำเป็นต้องมีกฎหมายรองรับอย่างมีประสิทธิภาพ                    4.การดำเนินการด้านภาษีต้องชัดเจน                                                                                           5.ผู้ซื้อและผู้ขายจำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานในเทคโนโลยีอินเทอร์เนต

วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เทคนิคการใช้อินเตอร์เน็ต

1.แก้ปัญหาเน็ตหลุดบ่อย
windows xp
ไปที่Start > Setting > Control Panel และคลิ๊กที่ Modems ที่แท็บ General ของ Modem เลือกโมเด็มที่ใช้ จากนั้นคลิ๊กปุ่ม Properties และเลือกความเร็วในช่องของ Maximum Speed ให้ลดลงกว่าค่าเดิม ถึงแม้ว่าจะทำให้โมเด็มมีความเร็วลดลงก็ตาม แต่มันจะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ไม่หลุด บ่อยๆ จากนั้นให้คลิ๊กที่แท็บ Connections และปุ่ม Port Setting แล้วลดขนาดบัฟเฟอร์ลง เช่นเดียวกัน ถ้าใช้เครื่องระดับ Pentium ขึ้นไป ให้คลิ๊กที่ Use FIFO buffers ไว้ด้วย



2.ลด Effect ของ Windows XP 

มีวิธีที่จะลด Effect ต่างๆ ทีมีอยู่มากมายเพื่อแลกกับความเร็วในการใช้งานที่เพิ่มขึ้นด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้

ให้คลิ้กขวาลงไปบน Desktop จากนั้นให้เลือก Properties เลือกไปที่แทป Appearance กดที่ Effect จะเห็น List ให้เลือกที่จะปิด Effect ที่เห็นว่าไม่จำเป็นออกไปได้ และอีกที่หนึ่งที่จะสามารถปรับค่าต่างๆ ได้ละเอียดกว่าก็คือ ให้เข้าไปที่ Control Panel จากนั้นเลือกไปที่หัวข้อ Performance and Maintenance จากนั้นเลือกที่ Adjust Visual Effect ก็จะปรากฏหน้าต่าง Performance Option ให้เลือกว่าจะใช้หรือไม่ใช่ Effect ตัวใดบ้าง และผลพลอยได้ก็คือจะช่วยให้เครื่องของเราทำงานได้เร็ว คล่องตัวมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด